4908 จำนวนผู้เข้าชม |
สวัสดีค่ะ ครูอาโป นักกิจกรรมบำบัดผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก ในฐานะผู้ทำงานกับเด็กๆ ที่มีความต้องการพิเศษค่ะ ครูอาโปมักได้รับคำถามเกี่ยวกับวิธีการรักษาใหม่ๆ ที่อ้างว่าสามารถช่วยเหลือเด็กๆ กลุ่มที่มีอาการของโรคออทิสติกได้ หนึ่งในวิธีการที่กำลังเป็นที่สนใจอย่างมากในปัจจุบันคือ Transcranial Magnetic Stimulation หรือ TMS ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากระตุ้นสมองค่ะ
สิ่งที่ผู้ปกครองควรทราบ
หากคุณพ่อ คุณแม่ กำลังพิจารณาใช้รูปแบบการรักษาด้วย TMS สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบสมอง และนักกิจกรรมบำบัดเพื่อประเมินความเหมาะสมและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น TMS อาจไม่เหมาะสำหรับเด็กทุกคน โดยเฉพาะเด็กเล็กหรือเด็กที่มีอาการชักค่ะ ครูอาโปจึงอยากแนะนำการฝึกกิจกรรมบำบัด, แก้ไขการพูด, ABA, CBT ซึ่งการรักษาด้วยรูปแบบทางการแพทย์สากลที่มีหลักฐานการรักษาอ้างอิงที่น่าเชื่อถือสูง เป็นแผนหลักของการรักษาโรคออทิสติกหรือโรคและอาการที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาการเด็กด้านอื่นๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็กๆ ในการมีพัฒนาการทางภาษา อารมณ์ และสังคมที่ดีขึ้นตามช่วงวัยนะคะ
TMS ปัจจุบัน ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ให้ใช้รักษาโรคซึมเศร้าในผู้ใหญ่ที่ไม่ตอบสนองต่อยา แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการศึกษาและนำมาประยุกต์ใช้กับกลุ่มอาการอื่นๆ รวมถึงออทิสติกด้วยนะคะ
TMS ทำงานอย่างไร?
TMS ทำงานโดยการส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าผ่านกะโหลกศีรษะไปยังบริเวณเฉพาะของสมอง คลื่นแม่เหล็กเหล่านี้สามารถกระตุ้นหรือยับยั้งการทำงานของเซลล์ประสาทในบริเวณนั้นๆ ได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานของสมองและพฤติกรรมค่ะ ซึ่งในการรักษาออทิสติก TMS มักจะมุ่งเป้าไปที่บริเวณสมองที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร สังคม และพฤติกรรมซ้ำๆ โดยหวังว่าจะช่วยแก้ไข รักษาพัฒนาการในด้านเหล่านี้ได้ค่ะ
TMS ได้ผลจริงหรือไม่?
คำตอบสำหรับคำถามนี้ จากการหาข้อมูลงานวิจัยทางการแพทย์ ครูอาโปว่ายังไม่ชัดเจนค่ะ แม้ว่าจะมีงานวิจัยบางชิ้น มีผลลัพธ์ที่น่าสนใจ เช่น การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Frontiers in Psychiatry ในปี 2020 พบว่า TMS สามารถแก้ไขปัญหาการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ทางสังคมในเด็กออทิสติกได้ แต่ก็ยังควรต้องมีงานวิจัยอีกจำนวนมากๆ มาสนับสนุน เพื่อยืนยันประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ TMS ในการรักษาออทิสติกค่ะ
TMS ยังเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่ในการรักษาออทิสติก และยังไม่มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนเกี่ยวกับวิธีการใช้งานที่ดีที่สุด ปัจจัยต่างๆ เช่น ความถี่ของการรักษา ระยะเวลา และบริเวณสมองที่ถูกกระตุ้น อาจส่งผลต่อผลลัพธ์ของการรักษา ในปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดว่า TMS เหมาะสมกับผู้ป่วยเด็กออทิสติกหรือไม่ เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยและรวบรวมข้อมูลเพื่อยืนยันประสิทธิภาพและความปลอดภัยค่ะ
ข้อจำกัดของงานวิจัย : งานวิจัยส่วนใหญ่เกี่ยวกับ TMS ในเด็กออทิสติกยังมีจำนวนน้อย และมีข้อจำกัดหลายประการ ทำให้ยังไม่สามารถสรุปผลได้อย่างชัดเจนค่ะ
ความปลอดภัย : TMS อาจไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็กหรือเด็กที่มีอาการชัก เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อพัฒนาการของสมองและเพิ่มความเสี่ยงต่ออาการชักค่ะ
ค่าใช้จ่าย : TMS เป็นเทคโนโลยีที่มีค่าใช้จ่ายสูงและไม่รวมอยู่ในแผนประกันสุขภาพของเด็กๆ ค่ะ
ข้อมูลที่น่าสนใจ : งานวิจัยบางชิ้นชี้ผลลัพธ์ที่น่าสนใจในการส่งเสริมทักษะการสื่อสารและชทักษะทางสังคมในเด็กออทิสติก ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีในการพัฒนา TMS เป็นทางเลือกในการรักษาต่อไปค่ะ
เพิ่มเติม : การวิจัยเพิ่มเติมในอนาคตจะช่วยให้เราเข้าใจถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ TMS ในเด็กออทิสติกได้ดีขึ้น รวมถึงแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการใช้งาน
หากคุณพ่อ คุณแม่กังวลว่าลูกมีอาการเข้าข่ายออทิสติก สมาธิสั้น พัฒนาการล่าช้า ปรับตัวยาก จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตหรือส่งผลกระทบต่อการเรียน และกำลังมองหาแผนการรักษาที่มีประสิทธิภาพ สามารถปรึกษา Growing Smart Clinic โทร 083-806-1418 หรือ <a href="https://lin.ee/jDbBFs1"><img src="https://scdn.line-apps.com/n/line_add_friends/btn/th.png" alt="เพิ่มเพื่อน" height="36" border="0"></a> เพื่อรับคำแนะนำ นัดหมายประเมินพัฒนาการ และสามารถเริ่มต้นการฝึกกระตุ้นและส่งเสริม แก้ไขปัญหาพัฒนาการ เพื่อให้เด็กๆ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขทั้งที่บ้าน และโรงเรียน ในสังคมภายนอกค่ะ
งานวิจัยที่ใช้อ้างอิงถึงผลลัพธ์ที่น่าสนใจของ TMS ในการรักษาออทิสติก
- Barahona-Corrêa JB, et al. (2020). Transcranial magnetic stimulation in autism spectrum disorder: A systematic review. Frontiers in Psychiatry, 11, 580.
งานวิจัยนี้เป็น systematic review ที่รวบรวมและวิเคราะห์ผลการศึกษาต่างๆ เกี่ยวกับ TMS ในผู้ป่วยออทิสติก พบว่า TMS อาจมีประสิทธิภาพในการปรับปรุงการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ทางสังคมในเด็กออทิสติก อย่างไรก็ตาม ผู้วิจัยยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลลัพธ์เหล่านี้และประเมินความปลอดภัยในระยะยาว
- Oberman L, et al. (2016). Transcranial magnetic stimulation in autism spectrum disorder: Challenges and opportunities. Frontiers in Human Neuroscience, 10, 253. งานวิจัยนี้เน้นถึงความท้าทายและโอกาสในการใช้ TMS ในการรักษาออทิสติก รวมถึงการระบุเป้าหมายการรักษาที่เหมาะสมและการพัฒนาโปรโตคอลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
- Happé F, et al. (2014). The use of transcranial magnetic stimulation in autism spectrum disorders. Autism Research, 7(6), 651-661. งานวิจัยนี้สรุปผลการศึกษาเกี่ยวกับ TMS ในออทิสติก และแนะนำว่า TMS อาจเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการรักษาอาการบางอย่างของออทิสติก เช่น พฤติกรรมซ้ำๆ และการขาดความยืดหยุ่นทางความคิด
- Casanova MF, et al. (2014). Repetitive transcranial magnetic stimulation modulates event-related potentials in autism spectrum disorders. Journal of Autism and Developmental Disorders, 44(10), 2424-2433. งานวิจัยนี้ตรวจสอบผลของ TMS ต่อศักย์ไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ (event-related potentials) ในสมองของผู้ป่วยออทิสติก ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดการทำงานของสมอง พบว่า TMS สามารถปรับเปลี่ยนศักย์ไฟฟ้าเหล่านี้ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการทางสมองที่เกี่ยวข้องกับออทิสติก
****หมายเหตุ: งานวิจัยเกี่ยวกับ TMS ในการรักษาออทิสติกยังคงเป็นสาขาที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของงานวิจัยที่มีอยู่ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามผลการศึกษาในอนาคต****